1. เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุคืออะไร
เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ คือ เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ใช้พิมพ์ภาพลงบนวัสดุหลากหลายชนิด เช่น พิมพ์ลงบนไม้ ผ้าพลาสติกทนความร้อน แผ่นโลหะ แก้ว เซรามิค กระจก และอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องอาศัยแม่พิมพ์ กล่าวคือสามารถทำเพียงชิ้นเดียวก็ได้ นั่นหมายถึง หากท่านต้องการพิมพ์ภาพลงบนเสื้อยืด 10 ตัว แต่ละแบบไม่ซ้ำกันเลย ท่านก็สามารถทำได้ด้วยตัวท่านเอง ในงบประมาณที่ต่ำกว่าทุกระบบที่เคยมีมา (ในกรณีทำน้อยชิ้น)
2. สามารถพิมพ์ลงวัสดุอะไรได้บ้าง
สามารถพิมพ์ได้หลายๆวัสดุนะคะ โดยมีข้อแม้ว่าวัสดุเหล่านั้นต้องทนความร้อนได้มากกว่า 180 องศาเซลเซียส ขึ้นไปต้องมีเชื้อเดียวกับน้ำหมึกด้วย (เชื้อพลาสติกชนิดหนึ่ง) ถ้าวัสดุที่ไม่มีเชื้อพลาสติกชนิดหนึ่งจะต้องมีการเคลือบด้วยสารดังกล่าวก่อน จึงจะนำไปใช้ได้ วัสดุที่สามารถพิมพ์ได้คือกระเบื้อง ไม้ แผ่นโลหะ กระจก กล่องโลหะ พวงกุญแจ ผ้า เป็นต้นโดยทางบริษัทมี 2 แนวทาง ให้ท่านเลือก คือ
1. บริษัทไอเดีย เมคเกอร์ เทคโนโลยี เป็นโรงงานผู้ผลิตซัพพลายส์ หรือวัสดุที่ใช้พิมพ์ภาพลงบนวัสดุ ที่มีสินค้าให้เลือกมากกว่า 1000 รายการ หรืออีกนัยหนึ่งอาจกล่าวได้ว่า เราเป็นโรงงานผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ดังนั้นท่านสามารถซื้อสินค้าหรือซัพพลายส์พร้อมพิมพ์กับเราได้ในราคาสมาชิก ซึ่งถูกกว่าสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศและเป็นการการันตีได้ว่า สินค้าจากเราจะมีให้ท่านได้ตลอดไป เพราะเราผลิตเพื่อใช้ในประเทศและเพื่อการส่งออกอีกด้วยค่ะ
2. ในกรณีที่ท่านมีชิ้นงานอื่น ๆ ที่ต้องการพิมพ์ ท่านก็สามารถซื้อเฉพาะน้ำยาเคลือบวัสดุไปเคลือบเองได้ค่ะ ด้วยวิธีง่าย ๆ(ชิ้นงานที่ใช้ในการเคลือบ ควรมีขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ ชิ้นงานที่ใหญ่เกินไปไม่เหมาะกับการที่ท่านจะเคลือบเอง)
3. งานผ้าต้องมีการเคลือบน้ำยาก่อนไหม
ผ้าที่มีส่วนผสมของใยสังเคราะห์ไม่ต้องเคลือบสามารถพิมพ์ได้เลย แต่ต้องมีใยสังเคราะห์ผสมอยู่ตั้งแต่ 50 เปอร์เซ็นต์เป็นต้นไป แต่ถ้ามีส่วนผสมของใยสังเคาระห์มากกว่านี้ภาพที่ได้ก็จะสดและสวยมากขึ้น ผ้าใยธรรมชาติไม่สามารถเคลือบได้ค่ะ เพราะเคลือบไปก็ไม่มีผล เนื่องจากโมเลกุลของผ้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ต้องใช้อีกระบบหนึ่ง คือ ระบบลูกลอก Transfer ซึ่งของเราก็มีค่ะ
4. สามารถพิมภาพลงบนเนื้อผ้าอะไรได้บ้าง ผ้าขาว ผ้าสี ได้หรือไม่
โดยปกติระบบนี้จะเหมาะกับการพิมพ์ภาพลงบนผ้าสีอ่อน เพราะหมึกที่ใช้จะมีความโปร่งแสง โดยเนื้อผ้าที่สามารพิมพ์ได้ควรเป็นเนื้อผ้าที่มีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ผสมอยู่ หรือหากท่านต้องการพิมพ์ภาพลงบนเสื้อหรือผ้าที่มีสีเข้ม หรือเป็นผ้าที่เป็นเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย (Cotton 100% ) ผ้าดิบ ก็สามารถทำได้ โดยใช้หมึกธรรมดาพิมพ์ลงบนกระดาษเคมี และใช้เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุรีดทับลงไปใช้เวลาไม่ถึง 15 วินาที ก็ได้แล้วค่ะ แต่อย่างไรก็ตามการพิมพ์โดยระบบหมึกพิเศษลงบนผ้าขาวจะมีความคงทนกว่ามาก หลายเท่าตัวเลยทีเดียว และที่สำคัญต้นทุนต่ำกว่ามากค่ะ
5. ระยะเวลาที่ใช้ในการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ
ระยะเวลาที่ใช้ในการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ จะขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ละประเภท เช่น พิมพ์ภาพลงบนผ้า จะใช้เวลาไม่เกิน 2นาที กระเบื้องใช้เวลาไม่เกิน 3 – 10 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเบื้องด้วย หากเป็นผ้าสีเข้ม ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 วินาที พิมพ์ภาพลงบนจิ๊กซอว์ใช้เวลา 2 - 3 นาที นั่นหมายถึงลูกค้าของท่านสามารถนำภาพถ่ายของตัวเอง มาทำแล้วสามารถรอรับกลับได้เลย เป็นการพิมพ์แบบฉับไว และให้ความประทับใจสูง
6. ความคงทนของชิ้นงาน
ภาพที่จะมีความคงทนสูง ยกตัวอย่างเช่น กระเบื้องที่พิมพ์เสร็จแล้ว เมื่อใช้มือขูดขีดจะไม่สามารถทำให้ภาพเป็นรอยเสียหายได้ หรือในกรณีที่พิมพ์ภาพลงบนผ้าหรือเสื้อยืดสีขาว เมื่อนำผ้าไปซัก หรือดึงยืด ภาพที่ได้ก็จะคงอยู่ไม่แตกลายสามารถซักได้หลายครั้งจนกว่าผ้าจะเปื่อย แต่ภาพก็ซีดจางไปตามสภาพของเนื้อผ้า กรณีที่พิมพ์ภาพลงบนเสื้อสีเข้มด้วยการใช้ระบบกระดาษลอกลายและหมึกธรรมดา ภาพที่ได้จะไม่คงเท่ากับระบบที่ใช้หมึกพิเศษ ซึ่งในปัจจุบันเรามีทางเลือกใหม่ให้ท่านเลือก กล่าวคือ เรามีชิ้นงานหลากหลาย อาทิ เช่น เสื้อยืด ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ที่มีสีเข้ม และสามารถพิมพ์ได้ด้วยระบบหมึกพิเศษ โดยภาพไม่ซีดจาง
7. เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุราคาเริ่มต้นเท่าไหร่
เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 9,000 บาท (ขนาดเล็ก 4x7 นิ้ว) หรือหากเป็นชุดแพ็คเก็จเริ่มต้นเพียง 39,000 บาท ซึ่งงบประมาณเหล่านี้หากคุณเปิดร้านหรืออยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสม ใช้ระยะเวลาคืนทุนเพียง 1-3 เดือน (สถิติเร็วสุด 17 วัน)
8. เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุผลิตจากที่ไหน
เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุผลิตภายใต้การคิดค้น และพัฒนารูปแบบโดยทีมงานนักออกแบบ และวิศวกรของบริษัทบางส่วนเป็นเครื่องที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยทีมงานของบริษัทมีมากถึง 30 – 40 คน พร้อมบริการและให้คำแนะนำกับคุณอย่างครบวงจร เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุที่ผลิตในประเทศ มีการเลือกใช้วัสดุเป็นพิเศษ เช่นระบบความร้อน เป็นฮีตเตอร์สแตนเลสสามารถใช้งานได้อย่างคงทน (เกรดเยอรมัน) ระบบอุณหภูมิ เป็นสินค้านำเข้าจากเยอรมัน ทางบริษัทเลือกใช้ตัวจับวัดด้วยของเหลว เพราะระบบนี้มีความเที่ยงตรง และรักษาระดับอุณหภูมิได้ดีที่สุด ตัวเครื่องทำจากเหล็กและอลูมิเนียมเกรดเอ พ่นทับด้วยสีพ่นรถยนต์ จึงมีความทนทาน และสวยงามระบบคันโยกผลิตในต่างประเทศ มีความทนทานสูง
นอกจากนั้นเรายังมีการพัฒนาระบบปรับแรงอัด (Pressure) อัตโนมัติ ระบบนี้เป็นลิขสิทธิ์ของเรา โดยเฉพาะช่วยในการปรับแรงอัดทำให้วัสดุเรียบติดกับแผ่นความร้อนได้ดี ซึ่งสาเหตุนี้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ภาพออกมามีความสม่ำเสมอเครื่องที่ผลิตในประเทศของเรายังสามารถปรับความหนาได้สูง 1 – 5 ซม. เลยทีเดียว ซึ่งเครื่องนำเข้าจากต่างประเทศปรับความสูงได้อย่างมาเพียง 2 ซม. เท่านั้น จึงทำให้มีข้อจำกัดในการพิมพ์วัสดุที่มีความหนาค่ะ สุดท้ายก็เป็นเรื่องอะไหล่และอุปกรณ์ค่ะ หากเครื่องของท่านมีปัญหา แน่นอนค่ะถ้าเป็นเรื่องอะไหล่ต้องรอเวลาอะไหล่เข้ามาจากต่างประเทศ อาจนานเป็นเดือนจึงทำให้ธุรกิจของท่านล่าช้าได้
หมายเหตุ : เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ (เครื่องอัดภาพระบบความร้อน) ควรมีขนาดให้เหมาะสม กับขนาดชิ้นงาน และเครื่องพิมพ์ (inkjet Printer) ทั้งนี้เพราะมีหลายค่ายเสนอขายเครื่อง 15 นิ้ว ซึ่งต่างประเทศถือว่าเป็นเครื่องโหล ราคาถูก เพราะผลิตเพื่อใช้กับงานผ้า ในวงการอุตสาหกรรม มาขายให้กับลูกค้าเพื่อพิมพ์ลงบนหลายอย่าง เช่นลงกระเบื้องลงกล่องโลหะหนาๆ ลงผ้า ลงพวงกุญแจ จะเห็นได้ว่า ชิ้นงานจะมีหลายความหนามาก แต่เครื่องปรับได้แค่ 1-2 ซม. เท่านั้นที่สำคัญแถมปริ๊นเตอร์ A4 แต่เครื่องพิมพ์ใหญ่ถึง 15x15 นิ้ว แล้วจะให้เอาใหญ่ไปเพื่ออะไร มีแต่เปลืองพลังงานเปลืองค่าไฟคุณเอง ฝากไว้พิจจารณาเพียงเท่านี้ล่ะค่ะ
9. เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุใช้ยากไหม
เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ เป็นเทคโนโลยี สมัยใหม่ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน กล่าวคือ ออกแบบภาพจากคอมพิวเตอร์แล้วสั่งพิมพ์ลงบนกระดาษอิงค์เจ็ทธรรมดาด้วยน้ำหมึกพิเศษ แล้วอัดด้วยความร้อนลงบนวัสดุได้เลย ใช้เวลารวดเร็วในการทำ นอกจากนั้นทางบริษัทยังจัดเตรียมคู่มือ ซีดีการใช้งาน และจัดอบรมตัวต่อตัว Step by Step ให้กับท่านฟรี ตลอดจนสอนการใช้เทคนิค และการดูแลรักษาการใช้โปรแกรม ตลอดจนช่องทางการตลาดให้กับท่านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
10. ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ไม่รู้เรื่องกราฟฟิก ใช้ได้ไหม
ทางบริษัทได้พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์กราฟฟิก เพื่อใช้ได้ในการออกแบบ และ การพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ โดยแต่ละโปรแกรมใช้เวลาในการพัฒนามาเป็นแรมปีโปรแกรมที่เรามีเป็นโปรแกรมที่มีทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเพื่อการส่งออก โปรแกรมของเรามีหลากหลายโปรแกรม ดังนี้
1. โปรแกรมเมจิกโปร เป็นโปรแกรมที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ใช้ในการออกแบบภาพในการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุต่างๆ ได้หลายร้อยรายการภายในจะมีฟังก์ชันต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการออกแบบ ประกอบกับมีลูกเล่นหลากหลายให้ท่านเลือกได้ตามชอบใจ นั่นหมายถึงท่านไม่จำเป็นต้องมีความรู้ หรือมีความชำนาญมากมายนัก ท่านก็สามารถใช้งานได้โปรแกรมเปรียบเสมือนพี่เลี้ยงให้กับท่านง่ายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเลยค่ะ
https://www.108prints.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=327912
2. โปรแกรมมิสเตอร์เนคไท มีลักษณะเหมือนโปรแกรมเมจิกโปร มีข้อแตกต่างคือ โปรแกรมนี้ใช้ในการออกแบบเนคไท ปลอกหมอนหนุน ปลอกหมอนข้าง โดยมี Template ให้เลือกหลากร้อยรายการ ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้งานค่ะ
https://www.108prints.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=327914
3. โปรแกรมมิสเตอร์มักกื้ มีลักษณะเหมือนโปรแกรมเมจิกโปร มีข้อแตกต่าง คือ เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับออกแบบภาพลงบนแก้ว มีรูปแบบหลากหลายให้ท่านลือกง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน
https://www.108prints.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=327915
นอกจากนี้ในอนาคตยังมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และเทมเพลสอีกมากมาย เพื่อรองรับสมาชิกใหม่ที่ตัดสินใจเข้าร่วมธุรกิจกับเรา เพื่อความสะดวกของท่านโปรแกรมที่กล่าวมาข้างต้น เป็นโปรแกรมลิขสิทธิ์ มีทั้งภาษไทย และภาษาอังกฤษ โดยท่านที่ซื้อเครื่องจากเราจะได้ระบบสมาชิก และโปรแกรมลิขสิทธิ์มูลค่ากว่า 5,000-16,000 บาท ฟรี ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้โปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป
หมายเหตุ : หากมีคนบอกว่ามี Software ลิขสิทธิ์ให้ท่านเป็นภาษาไทย ใช้งานง่าย ทำได้หลายอย่าง แต่พอเอาเข้าจริงๆ กลายเป็น ให้ท่านไปเรียน Photo shop เอาเอง หรือไป copy โปรแกรมประเภท ของฟรี (FreeWare ) มาแจกให้คุณ ทำอะไรแทบไม่ได้เลย ดังนั้นก่อนตัดสินใจกรุณาตรวจสอบ และขอดูให้แน่ๆ ก่อนว่ามีจริงหรือเปล่าแล้ว work แค่ไหน ลูกค้าบ่นให้เราช่วยหลายรายแล้วค่ะ
บริษัท ได้พัฒนาโปรแกรมขึ้นเองหลายโปรแกรม เป็นโปรแกรม Graphic ที่เขียนจากโปรแกรมเมอร์ และทีมนักออกแบบของบริษัทเองใช้เวลาในการทำแต่ละโปรแกรมเป็นแรมปี กว่าจะได้โปรแกรมที่ใช้ง่าย เป็นภาษาไทย และมี Template หลากหลาย เราพัฒนาเพื่อจำหน่ายยังต่างประเทศ มีทั้ง version ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่สำหรับคนไทย เราแจกฟรีให้กับลูกค้าที่ซื้อเครื่องจากเราเท่านั้นค่ะ
คำเตือน : ท่านที่ใช้โปรแกรมของทางบริษัท โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำสำเนา เอาส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้ หรือดัดแปลงโปรแกรมของทางบริษัทเราทางบริษัทจะดำเนินการตามที่กฎหมายบรรญัติไว้สูงสุด หากท่านใดมีหลักฐานการ หรือพบการใช้โปรแกรมของเราโดยมิได้รับอนุญาติ กรุณาแจ้งมายังบริษัทจะมีรางวัลให้ค่ะ
11. เคยเห็นการพิมพ์ภาพลงบนกระเบื้องหรือจิ๊กซอว์ขนาดเท่ากับฝาผนังเครื่องของคุณทำได้ไหม
ทำได้แน่นอนค่ะ เพราะเรามีโปรแกรมที่ช่วยในการออกแบบและแบ่งภาพออกเป็นภาพย่อย ๆ ที่มีขนาดเท่ากับวัสดุพอดียกตัวอย่างเช่น ลูกค้านำภาพถ่ายครอบครัวมา สแกน โปรแกรมของเราจะช่วยแบ่งภาพออกตามที่ท่านต้องการ เช่น สูง 5 แผ่นยาว 10 แผ่น เองอัตโนมัติ ทำให้ประหยัดเวลาและไม่ต้องเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรมที่ยุ่งยาก
12. มีสัญญาข้อผูกมัด ข้อจำกัดหรือข้อแม้อื่นๆ หรือไม่
ทางบริษัทไม่มีการสร้างเงื่อนไขหรือข้อผูกมัดใด ๆ ทั้งสิ้นกับลูกค้า และทางบริษัทไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานของท่าน ไม่มีการเรียกเก็บแฟรนไซส์ ค่าธรรมเนียมรายเดือน – รายปี หรือส่วนแบ่งจากยอดขาย รายได้ที่ได้จากการประกอบการของท่านทั้งหมดจะเป็นของท่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังไม่บังคับให้ท่านซื้อวัสดุจากที่เราอย่างเดียวท่านสามารถหาซื้อได้จากแหล่งต่าง ๆ ได้เอง อาทิ เช่น งานผ้า เสื้อยืด ท่านสามารถหาซื้อได้จากแหล่งค้าส่ง คือ ประตูน้ำ โบ้เบ้ หรือสั่งตัดแบบพิเศษจากโรงงานก็ได้ หรือหากท่านไม่สะดวกท่านก็สามารถซื้อจากเราก็ได้ค่ะ ซึ่งมีชิ้นงานพร้อมพิมพ์ให้ท่านเลือกมากกว่า 1000 รายการ มากมายจนคุณคาดไม่ถึง
13. หากเปิดกิจการร่วมกับธุรกิจอื่น ๆ หรือลงสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของบริษัท ได้หรือไม่
ได้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะธุรกิจนี้เป็นของท่าน เราเพียงแต่เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการตลาด และท่างเทคนิค ตลอดจนเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่านั้น มีลูกค้าหลายรายที่นำไปใช้ร่วมกับกิจการที่มีอยู่แล้ว อาทิ เช่น ร้านถ่ายรูป สถานที่ท่องเที่ยว สตูดิโอถ่ายภาพ – ตู้สติ๊กเกอร์ เป็นต้น
14. ทางบริษัทเป็นผู้คิดค้นระบบพิมพ์ภาพลงบนวัสดุเอง หรือไม่
ระบบการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุด้วยเทคนิค และกระบวนการนี้ (Printing Transfer) มีมาเกือบ 20-30 ปีแล้ว โดยต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงปัจจุบันเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในยุโรป สหัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอีกหลายประเทศในแถบเอเชียโดยทางบริษัทได้รับเอาเทคโนโลยีมาจากบริษัทแม่(Silverplalace International Havai USA.) เพื่อผลิตเฉพาะเครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุและวัสดุที่ใช้ในการพิมพ์ ทั้งนี้เพราะแรงงาน และวัตถุดิบในสหัฐอเมริกา มีราคาสูง ทำให้ยากต่อการแข่งขัน
15. สนใจที่จะลงทุน อยากทราบต้นทุน และรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน จะทำอย่างไร
ทางบริษัทมีทีมงานประจำที่สำนักงานใหญ่ และที่โชว์รูม ฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก พร้อมที่จะให้คำปรึกษา และแนะนำผลิตภัณฑ์ในเรื่องของต้นทุน ราคาขาย และข้อมูลทางด้านการลงทุน จะมีเป็นเอกสาร CD และสื่ออื่น ๆ อีกมากมายให้กับท่าน แต่จะไม่ให้กับคนทั่วไป หรือกับท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ดังนั้นหากท่านต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสมัครเป็นสมาชิก กรุณาติดต่อกับทีมงาน ได้ทั้ง 2 สาขา
https://www.108ideajobs.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=353645
16.ทางบริษัทมีความหน้าเชื่อถือ มีโอกาสปิดหรือไม่
บริษัท และบริษัทในเครือดำเนินธุรกิจทางด้านนี้มากกว่า 8 ปี ได้รับเชิญจากรายการโทรทัศน์ 5 รายการ วิทยุ 8 รายการและหนังสือต่าง ๆ มากกว่า 20 ครั้ง นอกจากนั้นยังมีบริษัทในเครือกว่า 7 แห่ง ดำเนินธุรกิจด้านต่าง ๆ ทั้งใน และต่างประเทศจึงเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า บริษัท และทีมงานของบริษัทมีความมั่นคง ไม่ใช่บริษัทที่หลอกลวงแต่ประการใด
17. เงินลงทุนไม่พอ มีระบบผ่อนไหม อย่างไร
ทางบริษัทตระหนักถึงปัญหานี้ดี จึงสามารถให้ท่านชำระโดยผ่อนชำระกับอิอน และยินดีรับบัตรเครดิตของท่าน สอบถามข้อมูลเบื้องต้น ได้กับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของบริษัท
18. ทำอย่างไรจึงจะได้ภาพที่คมชัด และเหมาะกับงานพิมพ์ภาพลงบนวัสดุแต่ละประเภท
โดยทั่วไปแหล่งที่มาของภาพจะมาจากหลายแหล่ง อาทิเช่น ภาพถ่ายจากอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล ภาพถ่ายจากเครื่องสแกนเนอร์
1. ภาพถ่ายจากอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายประเภทนี้ เป็นภาพถ่ายที่มักมีคุณภาพต่ำ ทั้งนี้เพราะแต่ละเว็บไซต์มักจะเลือกเอาภาพที่มีขนาดเล็กเพื่อความเร็วในการชม ดังนั้นหากเลือกภาพจากระบบนี้ให้ตรวจสอบ ความละเอียดของภาพดูก่อน โดยสังเกตจากขนาดของไฟส์ว่ามีขนาดเท่าไร หรือสังเกตจากความละเอียด เช่น ต้องมีความละเอียดไม่น้อยกว่า 800 X 600 Pixels ในกรณีที่ทำภาพขนาดเล็ก เช่น กระเบื้อง 4x4 นิ้ว หรือภาพขนาด 1024x768 Picxel หรือสูงกว่าก็จะเหมาะสำหรับพิมพ์ภาพลงบนกระเบื้อง 8x8 นิ้วได้
2. ภาพถ่ายจากกล้องดิจิตอล ภาพถ่ายจากก้องดิจิตอลที่นำมาใช้ ควรมีขนาดอย่างน้อย 2 ล้าน – 5 ล้าน Pixels ในกรณีที่ใช้ทำกระเบื้องแผ่นเดียว หรือชิ้นงานขนาดไม่เกิน A4 สามารถใช้ภาพขนาด 2 – 3 ล้าน Pixels ได้ แต่หากท่านต้องการทำภาพที่มีขนาดใหญ่ ควรใช้ภาพที่มีขนาด อย่างน้อย 4 – 5 ล้าน Pixels ขึ้นไป (ภาพยิ่งใหญ่แหล่งที่มาของภาพก็ควรมีขนาดใหญ่เช่นกัน)
3. ภาพถ่ายจากเครื่องสแกนเนอร์ ปัจจุบันมีเครื่องสแกนหลายยี่ห้อ เครื่องสแกนเนอร์ราคาถูกที่ไม่เกิน 3,000 บาท ก็สามารถใช้งานได้ดี สำหรับงานพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ โดยลักษณะการสแกนสามารถใช้ได้ตั้งแต่ 300 dpi ขึ้นไป โหมดของภาพควรเลือกเป็นแบบ Magazine โดยโหมด Magazine นี้ เครื่องจะทำการปรับภาพให้ออกมาดูนุ่มนวล และไม่เห็นรอยอันเกิดจากเนื้อเยื่อกระดาษ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสแกนภาพจากหนังสือแฟชั่น การสแกนโหมดนี้ จะให้คุณภาพที่ดีและภาพออกมาสวยงามที่สุด โดยจะไม่เห็นพื้นหลังของเยื่อกระดาษ
19. ควรเลือกใช้ปริ้นเตอร์ประเภทใด ในการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ
เครื่องพิมพ์ 6 สี หรือเรียกว่า Photo Printer ภาพที่ได้จากปริ๊นเตอร์จะมีความคมชัดมากระดับภาพถ่าย โดยจะมีความละเอียดสูงสุดได้ถึง 5760 dpi (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นและความละเอียดของปริ้นเตอร์) รุ่นของปริ้นเตอร์สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ระบบ ด้วยกัน คือ
ระบบที่ 1 เป็นเครื่องพิมพ์ระบบ 4 สี ให้ความละเอียดในการพิมพ์ได้ ตั้งแต่ 1440 dpi-2880 dpi ปริ้นเตอร์ประเภทนี้ เป็นปริ้นเตอร์ราคาถูก ข้อเสีย คือ ให้คุณภาพปานกลาง ไม่สวยนัก เหมาะกับนักลงทุนที่มีงบประมาณจำกัด และมีความเร็วในการพิมพ์ต่ำ อีกทั้งในการพิมพ์อาจมีละอองหมึกออกมา ทำให้เกิดเป็นจุดเล็ก ๆ ณ ชิ้นงาน
ระบบที่ 2 ปริ้นเตอร์ระบบ 6 สี หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ปริ้นเตอร์ระบบ photo ซึ่งโดยทั่วไป จะให้ความละเอียด 5670 dpi โดยระบบนี้จะมีการรวมเม็ดสี และผสมกันออกมาเป็นรูปภาพ ได้ความละเอียดเม็ดสีระดับภาพถ่ายเลยทีเดียว (16.7 ล้านสี) ปริ้นเตอร์ระบบนี้จะเป็นรุ่นที่น่าใช้งานและเหมาะกับงานแบบนี้ที่สุด สำหรับนักลงทุนที่มีงบประมาณปานกลางถึงสูง
ระบบที่ 3 ปริ้นเตอร์ระบบนี้ใช้หมึกมากกว่า 6 สี เช่น Epson Stylus pro 7,600 เป็นปริ้นเตอร์ที่มีความละเอียดสูง ความเร็วในการพิมพ์สูง พื้นที่พิมพ์ใหญ่มาก (A4-A1) เป็นปริ้นเตอร์ที่มีราคาแพงมาก โดยทั่วไปมีลูกค้าในระบบนี้น้อยมาก ๆ
20. เมื่อไหร่คืนทุน มีโอกาสขาดทุนหรือไม่
เครื่องพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ เป็นเครื่องพิมพ์เอนกประสงค์ สามารถพิมพ์ภาพลงบนวัสดุได้หากหลายนับ 1000 รายการจึงมีโอกาสรับงานได้หลากหลายกว่าเครื่องที่สามารถทำได้แค่ 1 – 2 อย่าง โดยปกติแล้วจุดคุ้มทุนจะอยู่ที่ประมาณ 1 – 3 เดือนสำหรับชุดมาตรฐาน หรือไม่เกิน 6 เดือน สำหรับชุดขนาดใหญ่ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับเงื่อนไขและปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ทำเลที่ตั้งความตั้งใจของผู้ประกอบการ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ท่านสามารถสอบถามได้จากทีมที่ปรึกษาทางการตลาดของบริษัท ทั้งที่บริษัทและโชว์รูม ฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก
https://www.108ideajobs.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=353645
21. ผลตอบแทนจากการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ เป็นอย่างไร
ในการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ ต้นทุนหมึกพิเศษ + กระดาษ A4 ประมาณราคาเพียง 15 บาทเท่านั้น เพราะฉะนั้นต้นทุนโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ที่วัสดุ หากท่านซื้อจำนวนมาก ๆ แน่นอนว่าราคาย่อมถูกลง การคำนวณผลตอบแทน ดังตารางดังนี้
วัสดุที่พิมพ์
|
ต้นทุนหมึกเฉพาะ+
กระดาษ
(บาท)
|
ต้นทุนราคาวัสดุ
(บาท)
|
ต้นทุนรวม
(บาท)
|
ราคาขาย
(บาท)
|
กำไร
(%)
|
เสื้อยืด
|
15
|
60 - 80
|
75 - 95
|
199 - 250
|
260
|
กระเบื้องพร้อมขา
|
6
|
29 - 37
|
35 - 42
|
150 - 199
|
470
|
พวงกุญแจ
|
0.50 - 0.75
|
8 - 16
|
9 - 17
|
60 - 90
|
660
|
กระเบื้องพร้อมกรอบ
|
6
|
74 - 94
|
80 - 100
|
250 - 299
|
310
|
เน็คไท
|
15
|
79
|
94
|
199 - 250
|
265
|
จิ๊กซอว์
|
10
|
39
|
49
|
199
|
400
|
ปลอกหมอนอิง+ไส้
|
15
|
124 - 128
|
139 - 143
|
250 - 350
|
244
|
ป้ายชื่อ/พวงกุญแจ/ทะเบียนรถจิ๋ว
|
0.50 - 0.75
|
3
|
3.50 - 3.75
|
50 - 90
|
2400
|
22. เราสามารถสลับกันใช้ระหว่างหมึกธรรมดากับหมึกพิเศษในเครื่องพิมพ์เดียวกันได้หรือไม่
โดยหลักปฏิบัติแล้วไม่ควรอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะมวลสารของหมึกธรรมดาและหมึกดูราซับมีขนาดเท่ากันแต่มีองค์ประกอบบางอย่างไม่เหมือนกัน จึงทำให้พิมพ์ลงกระดาษออกมาได้ปกติ แต่เมื่อนำไปทรานเฟอร์ลงบนวัสดุแล้ว ภาพที่ออกมาจะดูเลือนหรือพิมพ์ไม่ติด ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ท่านใช้ปริ้นเตอร์ตัวใหม่เลยดีกว่า โดยแต่ในละแพ็คเก็จทางบริษัทได้จัดปริ้นเตอร์ให้ท่านด้วยอยู่แล้ว โดยปริ้นเตอร์ทางบริษัทเน้นจะเป็นปริ้นเตอร์แบบ 6 สี ที่ถือว่ามีคุณภาพสูงสุด เหมาะกับการใช้งานทุกประเภทอยู่แล้ว หากท่านต้องการเปลี่ยนปริ้นเตอร์ที่ใส่หมึกธรรมดามาใช้ใส่หมึกดูราซับจะต้องผ่านกระบวนการล้างหัวพ่น โดยใช้เครื่องอุลตร้าโซนิกความถี่ต่ำ ที่ละลายหมึกจากหัวพ่นที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น ให้ออกไปเสียก่อน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก วิธีที่ดีที่สุดคือใช้ปริ้นเตอร์ใหม่ ที่ไม่เคยผ่านการใช้งานหมึกธรรมดามาก่อน สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการเติมหมึกด้วยตนเอง ทางบริษัทยังมีตลับหมึกพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะเหมาะสำหรับเติมด้วยตนเอง และชุดเติมหมึกอัตโนมัติให้ท่านเลือกอีกด้วย
23. พิมพ์ภาพแล้วออกมาสีเพี้ยน อมดำ อมเขียว ไม่เหมือนที่ปรากฎบนหน้าจอ
เนื่องจากหมึกที่ใช้เป็นหมึกพิเศษ (ดูราซับ) ซึ่งคุณสมบัติของหมึกนี้เมื่อพิมพ์ลงบนกระดาษจะมีสีซีดกว่าต้นฉบับ แต่เมื่อนำหมึกพร้อมกระดาษไปอัดลงบนวัสดุแล้วภาพที่ได้จะสดใสหรือใกล้เคียงกับภาพที่ปรากฎบนหน้าจอ ในกรณีที่พิมพ์ภาพลงบนวัสดุบางชนิดแล้วสี drop หรือความเข้มของสีต่ำกว่าปกติ ทั้งนี้เป็นเพราะว่า วัสดุแต่ละชนิดจะให้ความเข้มของสีไม่เท่ากัน ท่านสามารถแก้ไขได้โดยการ ปรับความเข้มของสีในหัวข้อตัวเลือกหรือกำหนดเองที่ไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์ เพื่อเป็นการชดเชยค่าสีได้
สูตรด้านบน จะทำให้ภาพสวย ชัดเจนขึ้น 10-15 % แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะภาพด้วยนะคะ
24. พิมพ์ภาพแล้วตัวหนังสืออ่านไม่ออก กลับซ้ายไปขวา เหมือนภาพในกระจก เป็นเพราะอะไร
ในการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุต้องมีการกลับภาพก่อน โดยหากท่านใช้โปรแกรมเมจิกโปร มิสเตอร์เนคไท มิสเตอร์มักกี้ หรืออื่น ๆ สำหรับการพิมพ์ภาพลงบนวัสดุ โปรแกรมจะกลับภาพให้ท่านอัตโนมัติหากไม่กลับภาพ กรุณาตรวจสอบที่ทางเลือกว่ามีการสั่งกลับแล้วหรือไม่ ในกรณี่ท่านใช้โปรแกรมการออกแบบอื่น ๆ เช่น CorelDRAW , Photoshop , ILLustrator เป็นต้น ท่านต้องทำการกลับภาพในโปรแกรมหรือกำหนดค่าที่ไดรเวอร์ของเครื่องพิมพ์ภาพก็ได้
25. มีเส้นขาดหรือสีเพี้ยน จากเครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึกพิเศษ
เครื่องพิมพ์ที่ใช้หมึกพิเศษนี้ เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่ใช้หัวพ่นระบบ piezo ทั่วไปที่ขายกันในท้องตลาดเป็นที่ทราบกันว่า หากเกิดอาการเส้นขาด หรือสีเพี้ยนเบื้องต้นแล้ว ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เส้นขาดเล็กน้อย ให้ทำการล้างหัวพ่น (Head Cleaning) จากนั้นทำการทดสอบพิมพ์อีกครั้งหนึ่ง ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
ในกรณีเส้นขาดเพียงเล็กน้อย แล้วขี้เกียจรอ cleaning มีเทคนิคดังนี้คือ ให้ตั้งโหมดการพิมพ์สูงขึ้น และเลือกวัสดุในการพิมพ์สูงขึ้น ก็จะไม่เห็นรอยเส้นขาด ทั้งนี้เพราะการพิมพ์โหมดสูงจะทำให้เส้นขาดมองไม่เห็น เพราะมีการทับกันของสีหลายครั้งในบริเวณเดิม
2. ในกรณีที่ล้างหัวพ่นหลายครั้งแล้วหมึกยังออกไม่ครบ เกิดขึ้นเนื่องจาก อาการทางเทคนิคซึ่งเราเรียกว่า Bending วิธีการแก้ไขคือตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง หมึกจะไหลลงสู่หัวพ่นโดยอัตโนมัติ หากทำแล้วไม่ได้ผล ให้ทิ้งไว้ข้ามคืน หมึกจะไหลลงสู่หัวพ่นเอง โดยอาศัยโรงโน้มถ่วงของโลก และแรงอัดอากาศของปริ้นเตอร์
3. ในกรณีสีเพี้ยนให้ตรวจสอบดังนี้
1. เติมหมึกผิดสีหรือไม่
2. ตั้งโหมดการพิมพ์ถูกหรือไม่ (คุณภาพ และชนิดกระดาษไม่เหมาะสม ) เป็นต้น
26. ตลับหมึกธรรมดา ตลับหมึกสำหรับ ( ตลับใส ) และชุดเติมหมึกอัตโนมัติ ต่างกันอย่างไร
ตลับหมึกธรรมดา หากนำมาใช้เติมหมึกพิเศษ ต้องล้างหมึกออกให้หมดแล้วจึงเติมหมึกพิเศษลงไปได้ นอกจากนั้น ทุกครั้งที่จะก่อนนำตลับหมึก เข้าเครื่องปริ้นเตอร์ต้องทำการรีเซ็ทตลับหมึกเสียก่อน
ตลับหมึกสำหรับเติม ( ตลับใส ) เป็นตลับหมึกที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อใช้สำหรับการเติมหมึกโดยเฉพาะ อาศัยการเติมโดยระบบสูญญากาศ ทำให้เติมได้ง่าย ข้อเสียคือ ต้องคอยถอดตลับหมึกออกเมื่อหมึกหมด ข้อดีคือ ราคาถูก
ระบบเติมหมึกอัตโนมัติ เป็นระบบเติมหมึกเข้าสู่ปริ้นเตอร์โดยอัตโนมัติ มีขวดหมึกอยู่ด้านข้าง ทำให้ท่านสามารถมองเห็นปริมาณน้ำหมึกคงเหลือได้สะดวก สามารถเติมหมึกได้ทันทีที่ต้องการ โดยไม่ต้องหยุดเครื่อง ซึ่งทำให้ประหยัดที่สุด
27. ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ระบบหมึกอัตโนมัติ
ควรติดตั้งชุดเติมหมึกอัตโนมัติด้านข้างให้อยู่ในระดับเดียวกันกับปริ้นเตอร์ ห้ามตั้งสูงกว่า หรือต่ำกว่าระดับปริ้นเตอร์ ทั้งนี้เพราะอาจเกิดอาการหมึกไหลย้อนกลับ ทำให้สิ้นเปลืองหมึกโดยไม่รู้ตัวตั้งทั้ง printer และระบบเติมหมึกอัตโนมัติ ( ciss Tank ) ให้อยู่บนระนาบเดียวกันเท่านั้น
28. ข้อแนะนำในการใช้หมึกให้ประหยัด
ไม่ควรเปิด ๆ ปิด ๆ ปริ้นเตอร์ แต่ควรจะเปิดตอนเช้า ( เข้างาน ) และปิดตอนเย็นหลังเลิกงานเพียงครั้งเดียว เพราะทุกครั้งที่มีการเปิดเครื่อง เครื่องจะทำการล้างหัวพ่นและดูดหมึกเข้าไป 1/48 ของปริมาณน้ำหมึกที่อยู่ในตลับ
29. โหมดที่ใช้ในการพิมพ์
ควรตั้งเป็น Best Photo และประเภทกระดาษให้เลือกเป็น Matte Paper, Epson Premium Glossy หรือสูงกว่าเท่านั้น จึงจะได้ผลลัพธ์การพิมพ์ที่ดี
30. ทำไมบางครั้งพิมพ์ภาพลงบนกระเบื้องแล้วติดไม่ทั่วแผ่น
1. ตรวจสอบระนาบโดยการปรับตัวหมุนบริเวณด้านบนของเครื่อง
2. ตรวจสอบแผ่นยางซิลิโคนและแผ่นยางดำว่ามีสภาพปกติหรือไม่
31. มีรอยกระดาษ หรือรอยเครื่องอัดความร้อนบนผ้า แก้ไขอย่างไร
แก้ไขด้วยการตัดกระดาษให้ได้ตามขนาดของรูป เช่น หากต้องการพิมพ์ภาพดาว หรือ หัวใจ ลงบนเสื้อยืด ก็ให้ตัดกระดาษใหญ่กว่ารูปดาว / หัวใจ เล็กน้อย ส่วนรอยเครื่องอัดความร้อนแก้โดยใช้กระดาษที่ใหญ่กว่าบริเวณอลูมิเนียมที่ให้ความร้อน รอง 2-3 แผ่น อย่าให้เครื่องแท่นอัดความร้อนสัมผัสกับผ้าหรือเสื้อโดยตรง
บริษัท ไอเดีย เมคเกอร์ เทคโนโลยี จำกัด
1796-1800 หมู่ 9 ถ.สุขุมวิท ซ.ตรงข้ามบิ๊กซีจัมโบ้(ปู่เจ้าสมิงพราย)
ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ลงถนนกาญจนาภิเษก สู่ถนนสุขุมวิทเพียง 1 ก.ม)
Tel. 02-7550290-1 , 02-7578488-9 Hotline : 081-6298220 Fax. 02-7576980
ในเวลาทำการ จันทร์-เสาร์ 9.00-18.00 น.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------