|
|
4 ขั้นตอนปริ้นสติ๊กเกอร์เองง่ายๆ
ทำสติ๊กเกอร์โลโก้แบรนด์ตัวเอง ฉลากสินค้าได้ด้วยตัวเอง
|
|
|
|
ในช่วงหลัง covid นี้ เพื่อนๆหลายๆคนผันตัวมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันมากขึ้นเยอะเลยนะครับ หลายคนหันมาผลิตสินค้าของตัวเอง บางคนทำอาหารเป็นแบรนด์ตัวเอง บ้านก็ทำเครื่องดื่ม เช่น ชากาแฟและสร้างแบรนด์ดังกันมากมาย
ซึ่งแต่ละสินค้าจะต้องอาศัยภาพลักษณ์ เพื่อสร้างความจดจำของแบรนด์ตัวเอง หนีไม่พ้นที่จะต้องใช้ฉลากสินค้า และแพคเกจจิ้ง สวยๆ แต่มันจะดีและคุ้มค่ากว่าไหมครับ หากเราปริ้นสติ๊กเกอร์สินค้า ปริ้นโลโก้เองได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปจ้างโรงพิมพ์
ซึ่งต้องการจำนวนขั้นต่ำหลายหมื่นดวงต่อการผลิต 1 ครั้ง อีกทั้งค่าใช้จ่ายที่สูงอันส่งผลต่อต้นทุนของสินค้าในระยะยาว และเราจะทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง หรือ สติ๊กเกอร์หลากหลายแบบก็ทำไม่ได้ เพราะมีต้นทุนของค่าเพลท และจำนวนขั้นต่ำที่โรงพิมพ์ต้องการ
เพื่อนๆหลายๆคนจึงเลือกใช้วิธีการปริ้นโลโก้เอง ปริ้นสติ๊กเกอร์เอง แต่ปัญหาก็คือมันมักจะไม่ได้คุณภาพที่ดี ดูแลรักษาเครื่องพิมพ์ได้ยาก ตลอดจนมีปัญหาจุกจิก อาทิเช่น ฟีดกระดาษหนาๆไม่ได้ พิมพ์แล้วเลอะเทอะ หัวพิมพ์อุดตันเป็นต้น
|
|
วีดีโอ ขั้นตอนปริ้นสติกเกอร์ใช้เอง |
|
|
|
ใหม่ล่าสุด เครื่องบรรจุของเหลว ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการบรรจุลงขวด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม น้ำยา เคมี ใช้ง่าย ราคาถูก
คลิกรายละเอียด... >>
|
|
|
|
วันนี้ทาง 108 ปริ้น จะมานำเสนอ 4 ขั้นตอนในการผลิตหรือปริ้นสติ๊กเกอร์เอง ปริ้นสติ๊กเกอร์โลโก้ เพื่อใช้ในการพิมพ์สติ๊กเกอร์ใช้เองกับเครื่องปริ้นสติกเกอร์ขนาดเล็กราคาเบาๆ
|
|
Mini LabelJet เป็นเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบม้วน ที่ใช้งานง่าย สามารถดูแลรักษาได้ด้วยตนเอง เหมาะกับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ บริษัทห้างร้านที่มีสินค้าหลากหลาย มีออเดอร์เยอะ มีเวลาน้อยอย่างพวกเรา ตัวนี้จะเป็นเครื่องมือพิเศษ ที่จะช่วยให้เพื่อนๆทำงานได้ง่ายขึ้น
|
|
อุปกรณ์ที่ใช้ในการปริ้นสติ๊กเกอร์เอง
|
|
|
|
1. เครื่องปริ้นสติกเกอร์ Epson หรือเครื่องปริ้นระบบม้วน Mini LabelJet มาไว้ใช้ปริ้นสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง
|
|
2. กระดาษสติ๊กเกอร์ มีหลายแบบให้เลือก อาทิเช่น สติ๊กเกอร์กระดาษราคาถูก สติ๊กเกอร์ photo glossy, สติ๊กเกอร์ PP ฉีกไม่ขาดรองรับหมึกพิมพ์อิงค์เจ็ท, สติ๊กเกอร์ PVC, สติ๊กเกอร์กระดาษคราฟน้ำตาล
|
|
|
|
3. เครื่องไดคัทสติ๊กเกอร์ ถ้าไม่มีก็ใช้มือตัดได้เหมือนกัน
|
|
4. คอมพิวเตอร์ PC หรือ Notebook เอาไว้สำหรับออกแบบและสั่งปริ้น
|
|
|
4 ขั้นตอนในการปริ้นโลโก้เอง
เป็นสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง ไว้ใช้งานกับสินค้า
|
|
ต่อไปนี้จะเป็นวิธีในการปริ้นสติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า ปริ้นโลโก้เอง โดยเพื่อนๆสามารถเอาไปประยุกต์ใช้ ให้เหมาะกับ ความต้องการของเราเองได้นะครับ ข้อดีของการปริ้นสติกเกอร์ใช้เอง ก็คือมีความยืดหยุ่นสูง สามารถทำโลโก้ที่หลากหลาย อาทิเช่น โลโก้น้ำดื่ม โลโก้กาแฟสด โลโก้กล้วยปิ้ง โลโก้อาหารญี่ปุ่น และอื่นๆอีกมากมาย โดยใช้เครื่องปริ้นฉลากสินค้า ตัวเดียวกัน ซึ่งจะแตกต่างจากการไปจ้างโรงพิมพ์ทำ เพราะต้องการจำนวนที่มากมาย และต้องมีค่าเพลท ซึ่งมีราคาสูงอีกต่างหาก 4 ขั้นตอนในการปริ้นสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเองมีดังนี้
|
|
|
1. ขั้นตอนการออกแบบโลโก้ ทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง
|
ในปัจจุบันนี้มีเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มที่มาช่วยในการออกแบบโลโก้มากมาย เช่นโปรแกรม canva ที่มี template รูปภาพ กราฟฟิก และตัวช่วยต่างๆมากมาย อีกทั้งยังใช้งานฟรี หากต้องการฟังก์ชันที่เข้มข้นขึ้น มืออาชีพมากขึ้น ก็สามารถสมัครใช้งานแบบเสียตังค์ได้ โปรแกรมอย่าง canva นี้ช่วยให้คนที่ไม่เก่งในเรื่องของงานกราฟิก สามารถสร้างงานออกแบบ เป็นสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง เพื่อใช้ในการปริ้นสติ๊กเกอร์เองได้อย่างมืออาชีพ
|
|
|
|
2. ขั้นตอนในการสร้างเส้นไดคัทและสั่งพิมพ์สติ๊กเกอร์ใช้เอง
|
ในขั้นตอนนี้จะเป็นการนำไฟล์รูปภาพ ไฟล์โลโก้ที่เราจะทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง จากโปรแกรมในข้อ 1 อาจจะบันทึกออกมาเป็นไฟล์พื้นหลังใส เช่น นามสกุล PNG Import เข้ามาในโปรแกรม silhouette studio เพื่อใช้ในการสร้างเส้นกรอบ ให้เครื่องตัดสติ๊กเกอร์ไดคัทฉลากสินค้าตามที่เราต้องการ โปรแกรม silhouette studio จะแถมมาพร้อมกับเครื่องตัดสติ๊กเกอร์คามิโอ และเครื่องตัดสติ๊กเกอร์ Portrait โดยในตัวโปรแกรมเองจะทำการตรวจสอบรูปภาพ และสร้างเส้นกรอบให้เราเองโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังมีการ offset ระยะของเส้น ให้ห่างออกจากชิ้นงานที่จะปริ้น 1 มิล 2 มิลหรือ 3 มิลแล้วแต่ตามที่เราต้องการ
|
|
|
คุณอาจจะมีคำถามว่า พิมพ์สติ๊กเกอร์ใช้เองจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องตัดสติ๊กเกอร์แบบไดคัทได้ รายการตัดสติ๊กเกอร์ให้เป็นฉลากสินค้าดวงๆ หรือไม่ คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง หากทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเองเป็นรูปแบบสี่เหลี่ยมง่ายๆตรงไปตรงมา คุณอาจใช้เพียงกรรไกรหรือคัตเตอร์ ในการตัดก็ทำได้ และอาจจะเร็วกว่าเครื่องไดคัทด้วย แต่ถ้าหากว่า งานฉลากสินค้าของคุณ มีรูปทรงที่ซับซ้อน กว่าการเป็นเส้นตรงธรรมดา การใช้เครื่องไดคัทก็ง่ายและสะดวกกว่ามากมาย ช่วยให้งานปริ้นสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง ดูมีมาตรฐานสูงขึ้น
|
|
|
3. ขั้นตอนการสั่งพิมพ์สติ๊กเกอร์ใช้เอง
|
ในกรณีที่เพื่อนๆใช้เครื่องปริ้น Epson ธรรมดาก็สามารถนำกระดาษสติ๊กเกอร์ใส่เข้าไปในเทด้านหลังไม่ควรใส่ครั้งหนึ่งเกิน 5 แผ่น เพราะจะทำให้กระดาษติดขัดจากนั้นให้ทำการสั่งพิมพ์ งานของเราพร้อมด้วยมาร์คจากโปรแกรม silhouette studio โดยเลือกจำนวน Copy ที่ต้องการและเลือกชนิดกระดาษเป็น กระดาษผิวด้านคุณภาพการพิมพ์ ให้เลือกเป็นแบบมาตรฐานเพื่อความรวดเร็ว หรือแบบสูง เพื่อคุณภาพสูงสุดในการพิมพ์เพียงแค่นี้ก็จะได้งานออกมาตามที่ต้องการแล้วครับ ข้อเสียของการพิมพ์ระบบแผ่น อีกอันหนึ่งคือจำนวนดวงสติ๊กเกอร์ที่ได้จะน้อยกว่าระบบม้วนประมาณ 20% ทั้งนี้เป็นเพราะต้องมีการเว้นระยะจัดกระดาษด้านล่างขึ้นไปอีกประมาณ 2.6 ถึง 3.0 cm แต่ระบบม้วนไม่ต้องเสียระยะนี้นั่นเอง
|
ในกรณีที่ท่าน ต้องการพิมพ์แบบม้วน เพื่อลดปัญหากระดาษติด พิมพ์กระดาษหนาไม่ได้ และไม่อยากเสียเวลาในการเฝ้าเครื่องเพื่อป้อนกระดาษทีละแผ่น ให้ท่านใช้เครื่องพิมพ์ Mini LabelJet ก็ให้ท่านบันทึกไฟล์ในรูปแบบของไฟล์ prn ก่อนแล้วจึงนำมาปริ้นด้วยโปรแกรม Smart Print ให้ใส่จำนวนแผ่นที่ต้องการ
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการใช้เครื่องพิมพ์ Mini LabelJet ก็คือ ท่านไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการประมวลผล (render printing file) ทีละแผ่นเพราะเราจะทำการบันทึกเป็นไฟล์ prn ที่ลดเวลาประมวลผล ลงนั่นเอง เมื่อทำการปริ้นเสร็จในแต่ละแผ่น เครื่องพิมพ์ Mini LabelJet จะหยุด ณ ตำแหน่งนั้นและจะพิมพ์ต่อทันทีเมื่อมีงานเข้ามา โดยมีช่องว่างในแต่ละแผ่นเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เครื่องตัดคามิโอ สามารถค้นหาตำแหน่งถัดไปของการพิมพ์ได้ และทำการไดคัทได้อย่างแม่นยำ
|
|
|
สรุปก็คือ การใช้การพิมพ์สติ๊กเกอร์ใช้เอง ในแบบระบบม้วน และการใช้การตัดแบบระบบม้วน ทำให้ประหยัดเวลา ไปกว่า 30% และประหยัดวัสดุไปกว่า 20% รวมทั้งราคาของวัสดุระบบม้วน มีราคาถูกกว่า วัสดุแบบแผ่น 3-5 เท่าเลยทีเดียว
|
|
4. ขั้นตอนการไดคัทฉลากสินค้า จากที่ปริ้นโลโก้เองออกมาแล้ว
|
การไดคัท diecut หรือ contour cut คือขั้นตอนการตัดสติ๊กเกอร์แบบ 50% คือการตัดเฉพาะส่วนที่เป็นงานพิมพ์ แผ่นรองหลังสติ๊กเกอร์จะอยู่ที่เดิมไม่ถูกตัดขาดไปด้วย เมื่อทำการลอก สติ๊กเกอร์ออกจะได้เฉพาะส่วนที่ต้องการ ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน และได้คุณภาพของฉลากสินค้า ฉลากโลโก้แบบปริ้นเอง มีมาตรฐานระดับมืออาชีพเลยทีเดียว
|
|
|
|
เมื่อเราสั่งปริ้นออกมา จากเครื่องปริ้นสติกเกอร์ Epson หรือเครื่องปริ้นสติกเกอร์ระบบม้วน Mini LabelJet แล้วให้เราทำการนำงานพิมพ์สติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง ที่ได้มาป้อนเข้าสู่เครื่องตัดสติ๊กเกอร์ cameo หรือ graphtec ตามที่เราถนัด จากนั้นให้ทำการกด send เครื่องจะทำการอ่านมาร์ค 3-4 จุด แล้วแต่ชนิดเครื่อง เมื่อทำการอ่านมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เครื่องจะทำการตัดไดคัทให้เราเองโดยอัตโนมัติ ในกรณีของเครื่องพิมพ์สติ๊กเกอร์ใช้เอง ที่เป็นระบบม้วน เราสามารถกดปุ่ม send ถัดไปได้เลย ทำให้ประหยัดเวลาไม่ต้องป้อนกระดาษเข้าไปใหม่ทีละแผ่น เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย ประหยัดเวลาขึ้นได้อีกมากมาย
ในกรณีที่เพื่อนๆ ใช้เครื่องตัดสติ๊กเกอร์ Cameo แล้วการตัดไดคัท ไม่แม่นยำเท่าที่ควร เพื่อนๆ สามารถใช้แผ่นรองตัดร่วมด้วยจะทำให้งานตัดสติ๊กเกอร์แม่นยำขึ้น หรือ อีกวิธีหนึ่งก็คือการเปลี่ยนลูกล้อตัด จากแบบดั้งเดิมที่ติดมากับเครื่อง โดยใช้ลูกล้อแบบใหม่ คุณสามารถเปลี่ยนเองได้
|
|
|
ข้อดีของการปริ้นสติ๊กเกอร์เอง
|
|
การปริ้นสติ๊กเกอร์เอง เป็นการลดต้นทุนต่อดวงได้อย่างชัดเจน ถูกกว่าการไปทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง โดยจ้างสำนักพิมพ์เป็นผู้ปริ้น ผมขออธิบายดังนี้ สมมุติว่าเราต้องการที่จะพิมพ์ฉลากสินค้าขนาดประมาณ 5 x 5 เซนติเมตร
|
|
A :: หากเราทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ตัวเอง โดยใช้เครื่องปริ้น Epson ทั่วไป และสติ๊กเกอร์ PVC แบบอิงค์เจ็ท เราจะใช้ต้นทุนประมาณ 1.6 บาทต่อดวง
|
|
B :: หากเราปริ้นโลโก้เอง โดยใช้เครื่องปริ้น Epson ระบบม้วน ระบบม้วนยี่ห้อ Mini LabelJet เราจะใช้ต้นทุน ประมาณ 0.50 บาทต่อดวง ถูกกว่าข้อ A 3 เท่าเลยนะครับ เท่าเลยนะครับทั้ง ราคาวัสดุแบบม้วน ของเรา PP sticker นอกจากจะมีคุณภาพดี กาวเหนียวติดทน และยังมีราคาถูกอีกด้วย และการพิมพ์ระบบม้วนจะช่วยประหยัด พื้นที่ในการไดคัท ทำให้ได้จำนวนดวงที่มากกว่าปกติ 20%
|
|
C: หากเราปริ้นสติ๊กเกอร์ ฉลากสินค้า โดยการไปจ้างโรงพิมพ์ทำ ราคาต้นทุนต่อดวง จะเหลือเพียง 35 สตางค์ ซึ่งถูกมาก แต่ปัญหาก็คือ คุณต้องพิมพ์ในแบบเดียวกันอย่างน้อย 30,000 ดวง จึงไม่ยืดหยุ่นเลย และจะต้องเสียค่าเพจอีก 4 เพลท ซึ่งมีราคาถึง 15,000 บาท การจ้างโรงพิมพ์จึงไม่ใช่คำตอบสำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ บริษัทห้างร้าน ที่มีสินค้าหลากหลายชนิด หลากหลายโลโก้ หลากหลายแบรนด์ และมีจำนวนในการผลิตต่อชิ้นไม่มากขนาดนั้น อีกครั้งการจ้างโรงพิมพ์ทำ ยังใช้เวลาในการรอคอยค่อนข้างนาน
|
|
|
|
|
|
การกำหนดไฟล์ปริ้นโลโก้ การออกแบบไฟล์ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง คุณอยากจะเปลี่ยนแบบ เปลี่ยนโลโก้เปลี่ยนสีสัน เปลี่ยนข้อความ ก็สามารถทำได้และปริ้นออกมาในทันที
|
|
สามารถปริ้นวันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ ลงไปบนฉลากได้เลย ในจำนวนที่คุณ ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องปริ้นออกมาทีละเยอะๆ แล้ววันหมดอายุใช้ไม่ได้ |
|
|
สรุปก็คือผมเชียร์เป็นอย่างยิ่งเลยให้เพื่อนๆพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ SME และบริษัทห้างร้าน หันมาพิมพ์ฉลากสินค้าใช้เอง โดยเลือกสติ๊กเกอร์ที่มีคุณภาพ และมีกาวแบบ Permanent ซึ่ง เป็นกาวถาวรติดได้อย่างทนทาน แช่ในน้ำแข็งหรือตู้เย็นได้ โดยคำนึงถึงราคาวัสดุ และความสะดวกในการดูแลรักษา เครื่องปริ้นของคุณ หวังว่าบทความนี้คงมีประโยชน์ สำหรับเพื่อนๆพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์นะครับ |
|
|
|
ติดต่อสอบถามได้เลยครับ |
|
|
|
WWW.108PRINTS.COM |
-------------------------------------------------- |
บริษัท ไอเดีย เมคเกอร์ เทคโนโลยี จำกัด
1796-1800 หมู่ 9 ถ.สุขุมวิท ซ.ตรงข้ามบิ๊กซีจัมโบ้(ปู่เจ้าสมิงพราย)
ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ (ลงถนนกาญจนาภิเษก สู่ถนนสุขุมวิทเพียง 1 ก.ม)
Tel. 02-7550290-1 , 02-7578488-9 Hotline : 081-6298220 Fax. 02-7576980
ในเวลาทำการ จันทร์-เสาร์ 8.30-17.30 น. |
|
|